หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2554

แต่งหน้าใส ไม่แก่เกินเด็ก





แต่งหน้าใส ไม่แก่เกินเด็ก

          
แหม ! เด็กสมัยนี้เริ่มที่จะแต่งหน้าตั้งแต่อายุยังน้อย ๆ บางคนแต่งซะเหมือนจะไปงานกลางคืน ทำให้ดูเกินวัยไปนิด

          วันนี้เราก็เลยขอแนะนำการแต่งหน้าสำหรับวัยรุ่นแบบที่ไม่เว่อร์ และสามารถที่จะเดินไปไหนต่อไหนได้ไม่ต้องอายใคร และไม่ต้องตกเป็นเป้าสายตาของขาเม้าท์ทั้งหลายว่า แต่งหน้าเหมือนลิงบ้าง แต่งหน้าเกินเด็กบ้างมาฝากกัน

          
 ลงรองพื้นบาง ๆ ให้ทั่วใบหน้า เลือกสีอ่อนกว่าผิวจริงสัก 1 เบอร์หรือสีที่ใกล้เคียงกับผิวมากที่สุด

           ถ้าใต้ตาเป็นรอยดำคล้ำ ใช้คอนซีลเลอร์ที่สีอ่อนกว่ารองพื้นหรือสีเดียวกันแต้มบริเวณใต้ตา จมูกและร่องแก้

           ใช้แป้งฝุ่นแตะเบา ๆ ให้ทั่วใบหน้า

           ปัดแก้มด้วยบลัชออนสีชมพูสำหรับสาวผิวขาว ส่วนสาวผิวสองสีให้ใช้สีส้มอมชมพู และอย่าลืมที่จะปัดที่จมูกบาง ๆ ให้เหมือนว่า แก้มแดงระเรื่อไง

           การทาเปลือกตานั้น ควรเลือกสีที่ดูแล้วสว่าง เช่น สีส้ม สีชมพู สีเหลือง โดยทาไล่ตั้งแต่หัวตา ไปจนถึงหางตา

           สำหรับคนที่คิ้วเข้ม และคิ้วสวยได้รูปอยู่แล้ว เพียงแค่กันคิ้วอีกสักหน่อย จากนั้นก็เลือกเขียนคิ้วโดยใช้ดินสอเขียนคิ้วสีน้ำตาล เพื่อลดความเข้มของคิ้ว แต่สำหรับคนที่คิ้วไม่ได้รูปนั้น ก่อนอื่นก็ต้องกันให้ได้รูปเสียก่อน ถ้าคิ้วสั้น ก็อย่าลืมที่จะเติมหางคิ้วเพิ่มสักหน่อย ก่อนที่จะเขียนคิ้วด้วยดินสอเขียนคิ้วสีน้ำตาลเช่นเดียวกัน

           ปัดมาสคาร่า โดยเลือกมาสคาร่าที่ช่วยให้ขนตาโค้งงอนได้รูป และที่สำคัญต้องล้างออกง่ายด้วย

           ในขั้นตอนของการทาลิปสติกนั้น ถ้ารู้ตัวว่าเป็นสาวที่ปากแห้งแล้วล่ะก็ แนะนำให้ทาลิปปาล์มก่อนที่จะทาลิปสติก ส่วนสีของลิปสติกนั้น ก็ควรเลือกสีเนื้อ หรือสีที่ใกล้เคียงกับสีของเรียวปากมากที่สุด แล้วตามด้วยลิปกลอสสีใสอีกครั้ง เพื่อเพิ่ม ความเงางามและทำให้ดูเรียวปากมีสุขภาพดี

          เป็นไงบ้างคะ ไม่ยากเลยใช่ไหม เอาเป็นว่าแต่งหน้าครั้งต่อไปก็ลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้ดูนะคะ 

วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2554

ผิวหน้าสวยใสด้วย 12 วิธี

ผิวหน้าสวยใสด้วย 12 วิธี

 ผิว หน้า สวย ใส หน้าใส สิว โลชัน ขัดหน้า ผิวหนัง เครื่องสำอางค์ ปอย 


     ไม่ว่าคุณจะเพิ่งอายุ 15 หยกๆ 16 หย่อนๆ หรือ 20 กว่าๆ 35 แก่ๆ ก็ไม่มีใครแก่เกินสวยหรอก หลายคนกังวลล่วงหน้าไป 5-6 ปี ไอ้ที่หน้าจะไม่แก่ ก็แก่ลงถนัดตา เพราะมัวแต่คิดถึงเรื่องที่ยังมาไม่ถึง อีกหลายๆ คน ก็เตรียมเก็บเงินไว้เลย เพื่อเตรียมทำศัลยกรรม ดึงหน้า ดึงเหนียง ลบรอยตีนกา ฝ้า ไฝ เมื่อถึงวัยตกกระ คุณสาวๆ …เหตุการณ์ทั้งหลายดังกล่าว จะไม่มีโอกาสเกิดขึ้นกับคุณ เพราะคุณจะดูแลรักษาผิวหน้าให้สวยสดใสด้วยวิธีง่ายๆ แต่ไม่ค่อยมีใครรู้ ดังต่อไปนี้


1. อย่าถ่างตานอนดึกให้มันมากนัก อย่ามัวแต่คิดว่าคุณน่ะยังไหว…ใจไหวแต่สังขารอาจไม่ไหวก็ได้


2. ดื่มน้ำมากๆ ไอ้ที่เขาว่าให้ดื่มวันละ 6-8 แก้วน่ะ ถ้าคุณดื่มได้มากกว่านั้นได้ ก็จะเป็นการดี และยิ่งถ้าเป็นน้ำเปล่าด้วยล่ะก็จะยิ่งดีใหญ่ หากคุณชอบดื่มน้ำอัดลมก็ดื่มได้เป็นครั้งคราว เพราะถ้าดื่มมากไปจะทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร และกัดกระเพาะคุณจนปวดท้องได้


3. ออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ บริหารตัวแล้วอย่าลืมบริหารหน้า นวดหน้าด้วยนะ ตัวเต่งตึงแต่หน้าเหี่ยวละก้อ หมดกัน!


4. งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ งดน้ำชา กาแฟ งดสูบบุหรี่ เพราะมันจะทำให้คุณแก่เกินอายุ ใครจะเถียงคอเป็นเอ็นละก้อ !!! ท้าให้คุณที่สูบบุหรี่ ดื่มกาแฟจัดๆ ลองเดินคู่กับเพื่อนที่ไม่ดื่ม ไม่สูบ แล้วถามคนอื่นๆ ดูว่า คุณกับเพื่อนใครแก่กว่าใคร (ข้อสำคัญ เขาต้องไม่รู้จักเพื่อนคุณมาก่อนนะ เพื่อป้องกันการลำเอียง) พึงระลึกไว้เสมอว่าอย่าเข้าข้างตนเองแต่ให้คนอื่นที่เขาหวังดีต่อคุณ มองคุณจะดีกว่า


6. อย่าตากแดดเป็นเวลานานๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแสงแดดที่แรงจัดเป็นเวลานานๆมิเช่นนั้นหน้าของคุณจะแก่ไม่รู้ตัวเชียว


7. ใช้โลชันอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีความเสี่ยงหรืออยู่ในสิ่งแวดล้อมที่จะทำให้แก่ เช่น อยู่แต่ในห้องแอร์ ที่เปิดเบอร์เดียว หนาวจัดตลอดปี ตลอดชาติ หากแอร์ของคุณปรับได้ กรุณาปรับเถอะ เพราะบางบริษัทเปิดแอร์เย็นแบบทุกข์ทรมาน พนักงานนั่งสั่น ใส่เสื้อกันหนาวกันโดยทั่วหน้า ก็ในเมื่อมันทุกข์ขนาดนั้น จะต้องเปิดให้มันทรมานทำไม


8. ทำความสะอาดร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งใบหน้าให้สะอาดอยู่เสมอ แล้วยิ่งหาก คุณเป็นสิวด้วยแล้วล่ะก็ ให้คุณใช้โฟมล้างหน้าที่เหมาะสำหรับการรักษาสิวเท่านั้น โฟมที่มีส่วนผสมของ AHA จะช่วยทำให้ใบหน้าของคุณลื่นขึ้น ที่สำคัญห้ามแกะสิวอย่างเด็ดขาด คนที่เป็นสิวเสี้ยนหากยิ่งแกะ ผิวของคุณหลังแกะก็จะคล้ายกับโลกพระจันทร์ ส่วนบรรดาสิวมีหนองทั้งหลาย หากยิ่งแกะก็จะยิ่งเกิดการอักเสบ สิวเป็นตัวการหนึ่งที่ทำให้ใบหน้า ของคุณดูเครียดและแก่ได้ โดยเฉพาะบรรดาผิวโลกพระจันทร์ทั้งหลาย


9. ขัดหน้าด้วยตนเอง โดยการใช้สครับ หากคุณเป็นคนผิวมัน ให้ขัดอาทิตย์ละ 2 ครั้งเท่านั้นโดยขัดนานๆ บริเวณดั้งจมูก และคางที่มีสิวเสี้ยน


10. หากคุณเป็นคนผิวแห้ง ควรใช้มอยซ์เจอไรเซอร์ก่อนนอนทุกครั้ง หากมีส่วนใดส่วนหนึ่งที่แห้งเป็นพิเศษ ควรใช้โลชันที่มี AHA ให้ทั่วบริเวณ แต่หากคุณเป็นคนหน้ามัน ควรใช้มอยซ์เจอไรเซอร์ชนิดเจลจะเหมาะกว่าชนิดครีม

11. อย่าใช้มืออันแสนสกปรกในช่วงวันไปสัมผัสบนใบหน้า จำไว้ว่าทุกครั้งเมื่อไปถึงที่ทำงาน หรือทันทีที่กลับถึงบ้านให้คุณล้างมือก่อนเสมอ ทั้งนี้เพื่อป้องกันการที่คุณจะเผลอเอามือไปจับหน้าจับตาให้สิวขึ้นได้


12. ล้างเครื่องสำอางค์ออกอย่างระมัดระวัง เพื่อความปลอดภัยให้คุณล้างมาสคารา หรืออายแชโดว์ด้วยเครื่องสำอางที่ปราศจากน้ำมัน ทั้งนี้เพื่อมิให้น้ำมันที่ว่าแทรกซึมไปตามผิวหนังส่วนอื่นๆ อันจะชักนำให้สิวพากันมาขึ้นพร้อมกัน โดยมิได้นัดหมาย

ทำสปานวดหน้าด้วยตัวเอง


ทำสปานวดหน้าด้วยตัวเอง (Lisa)
ถ้าไม่มีเวลาเข้าไปนวดหน้าที่สปา ทำไมไม่ทำเองที่บ้านล่ะค่ะ อาจจะทำด้วยตัวเอง หรือผลัดกันนวดกับเพื่อนก็ได้ 1. ทาเคลนเซอร์ที่ใช้ตามปกติลงบนผิวหน้า และลำคอให้ทั่ว ลงมือนวดตั้งแต่ฐานคอขึ้นมาจนถึงแนวขากรรไกร โดยใช้ปลายนิ้วลูบไล้เป็นแนววงกลม จากนั้น นวดไปตามแนวขากรรไกร แก้ม ด้านข้างจมูก และคิ้ว โดยนวดไล่จากด้านในไปด้านนอก

2. ไล่นิ้วจากบริเวณใต้ตาเข้าไปทางจมูก แล้ววกกลับขึ้นไปทางหน้าผาก จากนั้น ใช้ฝ่ามือลูบจากคอขึ้นมา และจากกึ่งกลางใบหน้าออกไปด้านนอก เสร็จแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น

3. ทาผลิตภัณฑ์ขัดผิวลงบนผิวหน้าในขณะแห้ง แล้วนวดเป็นแนววงกลมให้ทั่วใบหน้า จากนั้น จึงเติมน้ำลงไปแล้วนวดต่ออีกรอบ เสร็จแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทามาส์กพอกหน้าตามลงไปทันทีหลังล้างหน้าเสร็จ ปล่อยทิ้งไว้ตามเวลาที่กำหนดแล้วล้างน้ำออก

4. จบด้วยการทาครีมบำรุงตามลงไปทันที โดยใช้วิธีการนวดแบบเดียวกับตอนใช้เคลนเซอร์

ไม่ยากเกินไปใช่ไหมคะ ประหยัดเงินไปทำที่ร้านได้อีกด้วย ผลัดไปทำร้านบ้าง ทำเองบ้างจะได้สวยจังตังอยู่ครบนะคะ

ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับคนนอนดึก

ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับคนนอนดึก



1.
ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ เกิดอาการล้า

2.
ระบบร่างกายจะรวน ดังนี้
ระบบการย่อยอาหาร
ท้องอืด ท้องเฟ้อง่าย อาหารย่อยไม่ดี ทำให้อุจจาระหยาบ คืออาหารที่ทานเข้าไป ถ้าไม่นอนดึกอุจจาระจะสวย ไม่มีเศษอาหารติดอยู่ เหมือนกับแท่งทอง แต่ถ้าอดนอนแล้วอุจจาระจะหยาบ จะมีเศษอะไรต่างๆ ติดอยู่ เหมือนกับรถที่มีเขม่าติด เกิดจากการที่ร่างกายย่อยไม่หมด เพราะล้า
แนวทางแก้ไข ให้ลดอาหารประเภทเนื้อสัตว์ อาหารเหนียวๆ มิฉะนั้นลำไส้ทำงานหนัก ยิ่งนอนดึกแม้เราหลับไปแล้ว แต่ลำไส้ไม่หลับ ยังคงย่อยอยู่ต่อไป พอตื่นขึ้นมาก็เพลีย ให้ทานไข่ นม แทนพวกเนื้อสัตว์ ก็จะพอถูไถไปได้ มิฉะนั้นท้องจะผูกเป็นประจำ ริดสีดวงทวารจะถามหา ( ถ้าหากอ้วนก็ให้ทานนมแทนไข่)
ท้องผูก มี 2 ลักษณะ

1. ผูกแข็ง
คือ อุจจาระแข็ง

2. ผูกเหลว
คือ อาการถ่ายอุจจาระไม่หมด ยังค้างอยู่ แต่ลำไส้ล้า กระเพาะอาหารล้า ทำให้ไม่มีแรงบีบให้ออกจนหมด ดังนั้นในวันหนึ่งๆ จึงต้องถ่ายหลายครั้ง โรคที่จะตามมาก็คือ ผื่นคันบริเวณขาหนีบ (ไม่ใช่เพราะความสกปรกหมักหมม ) จะคันทั้งวัน ปกติอุจจาระจะกึ่งแข็งกึ่งเหลว ถ้าแข็งแสดงว่าส่วนที่เป็นน้ำได้ซึมกลับเข้ามาในลำไส้ ซึ่งมันเป็นของเสียที่ต้องขับออก ผลก็คือทำให้น้ำเหลืองเสีย ก็จะมาประทุบริเวณเนื้ออ่อนๆ เช่นที่ขาหนีบ สาเหตุก็มาจากท้องผูกนั่นเอง เพราะฉะนั้น อย่านอนดึก ถ้าต้องดึกก็ให้ออกกำลังหน้าท้อง ให้ท้องเกิดกำลัง จะได้รีดอุจจาระออกมาได้เร็ว ทานเสร็จแล้วอย่านอน ให้เดินสักครึ่งชั่วโมง เพราะพอขาได้เดิน ลำไส้มันก็ต้องไปกับขาด้วย จะช่วยทำให้ย่อยได้ดีขึ้น ท้องจะผูกน้อยลง ผื่นคันก็จะหาย ถ้ายังไม่หาย (เนื่องจากอายุมาก ) ให้ทานน้ำขิงสด ( ไม่ใช่ขิงผงเป็นซองๆ) พวกที่นอนดึกต้องให้ท้องอุ่นมากๆ ให้หาผ้ามาห่ม เดี๋ยวท้องจะอืด เฟ้อ บางทีต้องให้เท้าอุ่นด้วย ให้หาถุงเท้ามาใส่ มิฉะนั้นเท้าจะชา
ระบบปัสสาวะ
ถ้านอนไม่ดึก ประมาณ 3-4 ทุ่ม พอตื่นเช้าขึ้นมาจะปัสสาวะครั้งเดียวจบ แต่ถ้านอนดึก ยิ่งนอนตีหนึ่ง กลางดึกจะต้องลุกเข้าห้องน้ำถี่ เพราะร่างกาย Overload ต้องการน้ำมาก กล้ามเนื้อข้างในจะบีบคั้นเอาพลังงานออกมาใช้ จึงต้องใช้น้ำมาก ผลก็คือปัสสาวะบ่อย ทำให้พวกเกลือแร่ที่อยู่ในร่างกายจะถูกขับออกมาพร้อมกับปัสสาวะด้วย ยิ่งอายุ 35 ขึ้นไปจะยิ่งแย่
แนวทางแก้ไข ให้ทานแคลเซียมเม็ดได้ แต่อย่ามาก แค่ 1 เม็ดก็พอ ถ้าทานมากจะทำให้แคลเซี่ยมพอก คืออาการที่กระดูกงอกทับเส้นประสาท (ถ้าเป็นแล้วต้องให้คนนวด และทานยาละลายแคลเซี่ยมช่วย ) ถ้าไม่ทานแคลเซี่ยมชดเชย จะทำให้เลือดจาง เม็ดโลหิตจาง
ระบบเหงื่อ
คนที่ไม่มีเหงื่อออก จะแย่ ถ้าขับเหงื่อให้ออกได้ร่างกายสบาย ถ้าเหงื่อไม่ออกความร้อนภายในร่างกายจะระบายไม่ได้ ทำให้อึดอัด ของเสียในร่างกายก็ออกไม่ได้ โรคผิวหนังจะถามหา สิวฝ้าจะขึ้น เพราะฉะนั้น ดื่มน้ำให้มากพอและออกกำลังกาย เท่านั้นพอ เอาจนเหงื่อออกให้ได้ คนนอนดึกเหงื่อจะไม่ค่อยออก ของเสียตกใน สิวฝ้าขึ้น มันก็จะไปออกทางปัสสาวะแทน ไตเลยทำงานหนัก
ระบบหายใจ
ระบบหายใจจะเสียตามมา ร่างกายจะเอาออกซิเจนไปแลกเลือดดำให้เป็นเลือดแดงได้ต้องมีความชื้น ถ้าความชื้นน้อยมันจะไม่แลก ทำให้อึดอัด เหมือนอยู่ห้องแอร์แล้วอึดอัด เพราะความชื้นไม่พอ ไม่ใช่อากาศไม่พอ อากาศมันแห้งเลยเอาความชื้นในตัวเราไป ทำให้ปอดทำงานไม่สะดวก และออกซิเจนไม่ได้
แนวทางแก้ไข ให้เอาน้ำใส่กะละมังไว้ข้างตัว ยิ่งเป็นน้ำร้อนยิ่งดี ถ้าอึดอัดให้เอาผ้าหนุนเท้าให้สูง เลือดก็จะไหลลงมาได้ จะทำให้นอนสบาย การดื่มน้ำหวานๆ ตอนอยู่ดึกๆ ก็ช่วยได้ แต่อย่าหวานมากจะทำให้อ้วน ถ้าจะให้ดีที่สุดอย่าอยู่ดึก ดึกได้เป็นครั้งคราวถ้าจำเป็น คนนอนดึกเสียงจะแห้ง เพราะไตมันล้า การใช้สบู่ ให้ใช้สบู่เด็ก เพราะเป็นสบู่อ่อน การกัดจะน้อย อย่าใช้สบู่แรงๆ ให้ฟอกสบู่วันละครั้งก็พอ
สรุปแล้วการอดนอน เท่ากับเร่งวันตายให้ตัวเอง
การนอนดึกต้องดื่มน้ำให้มาก และเติมเกลือในน้ำด้วย คือพอเราดื่มแล้วมันออกมาหมดทั้งทางปัสสาวะและเหงื่อ เราทานเกลือมากๆ ยังออกทางเหงื่อได้ แต่ถ้าทานแคลเซี่ยมมากทำให้กระดูกงอก ส่วนโค้ก เป๊ปซี่ กระทิงแดง อย่าทาน พอเราอยู่ดึกและกลั้นปัสสาวะ มันจะซึมกลับเข้าเส้นเลือด ทำให้น้ำเหลืองเสีย ก็จะไปประทุที่ขาหนีบ หรือท้องแขนเป็นเม็ดแดงๆ เป็นจ้ำขึ้นทั่วเลย บางคนไม่กลั้น แต่ดื่มน้ำน้อย อาการก็จะเหมือนกับการโม่แป้งฝืดๆ ลำไส้บีบตัวไม่ไหว ต้องเค้น ก็จะเพลีย แต่ถ้าดื่มน้ำมาก ทำให้ถ่ายสบาย ถ้าดื่มน้ำน้อยจะทำให้กรดยูเรียเข้มข้น พอเรากลั้นปัสสาวะมันก็จะซึมเข้าเส้นเลือด ทำให้น้ำเหลืองเสีย ถ้ากลั้นบ่อยๆ จะทำให้ปัสสาวะไม่หมด

วันจันทร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2554